บรูโน่ แฟร์นันเดส ! หากไม่มีเขา ผีแดงอาจจะดาวน์เกรดมากกว่าที่เป็น

มันเป็นช่วงเวลาที่พลิกไปพลิกมา ราวกับกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเหาะตีลังกาสำหรับ บรูโน่ แฟร์นันเดส และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่จอมทัพชาวโปรตุเกส เดินทางมาถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อสองปีก่อน เรื่องราวทั้งหมดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทาง บรูโน่ มันได้เริ่มต้นขึ้นในฤดูร้อนปี 2019 เมื่อยูไนเต็ดประทับใจนักเตะมิดฟิลด์รายหนึ่งที่ทำได้มากถึง 33 ประตูจากเล่นเป็นกองกลางให้กับสปอร์ติ้ง CP ในฤดูกาลก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สื่อในโปรตุเกสก็ได้รายงานเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างเพลย์เมกเกอร์รายนี้ กับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูจะเกินจริงไปหน่อย ท้ายที่สุดการย้ายทีมของ บรูโน่ ก็ยังไม่ได้เกิดขึ้นในเวลานั้น

แม้แต่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังได้สอบถามไปยัง สปอร์ติ้ง แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะจ่ายเงินตามที่สปอร์ติ้งร้องขอมา ยิ่งเมื่อยูไนเต็ดถอนตัวออกจากการเจรจาด้วยอีก มันเลยทำให้ ท็อตแน่ม โผล่เข้ามาแจมอีกทีม และพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ดีลการเซ็นสัญญามันเกิดขึ้นได้มากกว่าสองทีมก่อนหน้านี้ และตัวของ แฟร์นันเดส เองก็เคยยอมรับในเวลาต่อมาว่าเขา ‘ใกล้’ ในการจะได้ย้ายไปเข้าร่วมทีมสเปอร์ส ด้วยเช่นกัน แต่ทุกอย่างก็ค้างเติ่งไว้แค่นั้น ทั้งสองฝ่ายล้มเหลวในการตกลงเรื่องค่าตัวกันได้ลงตัว

และตัวของ แฟร์นันเดส แม้ว่าเขาจะผิดหวังที่ไม่ได้ย้ายไปเติมเต็มความฝันในพรีเมียร์ลีกตอนซัมเมอร์ปี 2019 แต่เขาก็ยังคงความเป็นมืออาชีพได้ดี เขาเดินหน้าสู้เพื่อสปอร์ติ้งต่อไป และในขณะเดียวกัน เขาเองก็เริ่มต้นฤดูกาล 2019/20 ในลิสบอนด้วยฟอร์มที่ดีเช่นเดิม เมื่อข่าวลือเรื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อยากจะได้ บรูโน่ ไปค้าแข้งด้วยนั้น มันได้กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งในเดือนมกราคม 2020 มันทำให้ความหวังของเพลย์เมกเกอร์รายนี้ดูจะสว่างไสวมากขึ้น ขนาดที่ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมยูไนเต็ดในเวลานั้น จะช่วยสโมสรด้วยการควักเงินส่วนตัวเพื่อนำ แฟร์นันเดส มาเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ได้ด้วยอีกแรง ดังนั้นแล้ว โซลชาร์ จึงลงทุนถึงขั้นไปดูเขาเล่นให้กับสปอร์ติ้งในช่วงกลางเดือนมกราคม 2020 กันเลยทีเดียว

เมื่อเส้นตายการซื้อขายนักเตะประจำเดือนมกราคมได้ใกล้เข้ามา ในที่สุดก็ได้มีการตกลงค่าตัวกันได้แบบเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจ่ายเงิน 55 ล้านยูโร (47 ล้านปอนด์) บวกกับส่วนเสริมอีก 25 ล้านยูโรให้กับสปอร์ติ้ง เท่ากับว่าเงินรวมที่ยูไนเต็ดจ่ายให้กับสปอร์ติ้งเพื่อเอาตัว บรูดน่ มาเป็นจอมทัพคนใหม่นั้นมีมูลค่า 80 ล้านยูโรเลยทีเดียว ซึ่งตรงกับจำนวนเงินที่สปอร์ติ้งเคยขอในช่วงก่อนหน้านี้ การย้ายทีมของเพลย์เมกเกอร์รายนี้ ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2020 และแฟร์นันเดสก็ได้ประเดิมสนามทันทีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในเกมที่ยูไนเต็ดพบกับวูล์ฟแฮมป์ตันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เกมนี้จบลงด้วยสกอร์ 0-0 แต่ทีมของโซลชาร์ที่ก่อนหน้านี้แพ้ไปแล้ว 3 เกมจาก 4 เกมในพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้ – กลับไร้พ่ายติดต่อกัน 8 เกมพอมีบรูโน่ลงสนามช่วยทีม บรรยากาศภายในสนามและผลงานของทีมก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเขาเป็นตัวคุมจังหวะเกมรุก

จากนั้น เขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกเกมในพรีเมียร์ลีกที่เหลือและจบฤดูกาลด้วยผลงาน 15 ประตูจากการลงเล่น 14 นัดในลีก แถมยังพาสโมสรยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ และยูโรป้าลีก ได้อีกด้วย ว่ากันว่าหากไม่มี แฟร์นันเดส อยู่ในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานั้น ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะต้องดิ้นรนหนักกว่าที่เห็น เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปติดท็อปโฟร์ก่อนจบซีซั่น ซึ่งพวกเขาจบฤดูกาลด้วยการคว้าอันดับที่สามมาครองได้ในช่วงวันปิดฤดูกาล 2019/20 โดยไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกอีกเลยหลังจากที่เขามาถึง และพัฒนาขึ้นมาเป็นทีมที่คว้าตำแหน่งรองแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2020/21

ในช่วงฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเขาที่ได้ลงเล่นในลีกอังกฤษเต็มฤดูกาล แฟร์นันเดสยิงได้มากถึง 28 ประตูในทุกการแข่งขันและเปิดบอลให้เพื่อนยิงได้อีก 17 แอสซิสต์ นั่นก็เท่ากับว่าเขามีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมทำได้มากถึง 45 ประตูโดยตรงจากในการลงเล่น 58 นัด แถมสถิติยิงประตู 28 ลูกของเขา ยังเทียบได้กับสถิติของซลาตัน อิบราฮิโมวิช อดีตกองหน้าของทีมที่ทำไว้ 28 ประตูเช่นกันในฤดูกาล 2016/17 และเป็นกองกลางยูไนเต็ดที่ทำประตูได้มากที่สุดในฤดูกาลเดียว จากในทุกการแข่งขัน ในยุคหลังปี 1992 อีกด้วย ในช่วงระหว่างฤดูกาล 2020/21 แฟร์นันเดส กลายเป็นรองกัปตันคนใหม่ของสโมสรอย่างรวดเร็ว และปรับปรุงการเล่นของเพื่อนในทีมให้พัฒนาฝีเท้าตามกันขึ้นมาได้ดีมากขึ้นด้วย และที่สำคัญคือเพลย์เมกเกอร์รายนี้แทบจะไม่เคยโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามเลย ผ่านมาแล้ว 2 ปีเต็มที่เขาได้มาอยู่กับยูไนเต็ด อิมแพคจากตัวของเขาที่มีต่อทีมก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เขาเป็นกำลังสำคัญในทีมไปแล้ว และแฟนบอลก็ได้แต่หวังว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญในทีมต่อไปอีกนาน