ลิ้นกับฟัน มาชมคู่กัดที่ดันอยู่ในทีมเดียวกัน

มันอาจจะเลวร้ายกว่านี้มากสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน ดันมาเม้งแตกหรือบาดหมางใส่กันในทีมลิเวอร์พูล แต่มันอาจจะดูเล็กน้อยไปเลย ถ้าเทียบกับเหล่านักเตพวกนี้ จากประวัติศาสตร์การเล่นฟุตบอลที่ผ่านมานั้นมันแสดงให้เห็นถึงว่านักเตะที่อยู่ในทีมเดียวก็สามารถ “เกลียดขี้หน้ากันได้”

เอมลีน ฮิวจ์ส กับ ทอมมี สมิธ (ลิเวอร์พูล)

‘ไอ้ม้าบ้า’ ฮิวจ์ส เคยแย่งตำแหน่งกัปตันทีมมาจาก ‘ไอรอนแมน’ สมิธ กองหลังแข้งโหดมาแล้วในปี 1973 เมื่อตัวของ บิล แชงคลีย์ ได้ประกาศว่าจะให้ ฮิวจ์สรับหน้าที่ผู้นำทีม “นี่มันเป็นสโมสรของผม” สมิธจำได้ดี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกลียดขี้หน้ากันแค่ไหนก็ตาม แต่ทั้งคู่เป็นมืออาชีพที่สมบูรณ์ในสนามแข่งขัน และสามารถแยกความไม่ชอบส่วนตัวออกจากกันได้ 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท (อาแจ็กซ์)

สองเพื่อนร่วมทีมของอาแจ็กซ์ ดันมาเจอกับคำว่า “มิตรภาพพัง” ในระหว่างการแข่งขันในนามทีมชาติ เมื่อทีมชาติสวีเดนและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มีอันต้องมาเจอกันในปี 2004 เมื่อทางตัวของ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท โดนตัวของ อิบราฮิโมวิช จัดหนักด้วยการเข้าบอลหนักใส่จนตำนานจอมทัพอีซ้ายชาวดัตช์ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า มันทำให้เขาเคืองดาวยิงไวกิ้งอย่างมา”ผมไม่ได้ทำร้ายคุณโดยเจตนานะ และคุณก็น่าจะรู้” อิบรา ตอบโต้ “และถ้าคุณกล่าวหาผมอีกครั้ง ผมจะหักขาคุณทั้งสองข้างแน่ๆ” ซลาตันตอบกลับคู่กรณีอย่างหนัก และจากนั้นมาทั้งคู่ก็ไม่เคยญาติดีต่อกันอีกเลย

โลธาร์ มัทเธอุส กับ สเตฟาน เอฟเฟนเบิร์ก (ทีมชาติเยอรมนี)

สองตำนานกองกลางชาวเยอรมัน มักจะมีปากเสียงใส่กันเสมอ และการทะเลาะกันของทั้งคู่มันเกิดขึ้นในช่วงปี 1990 และยังเคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเวลาที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันที่บาเยิร์น มิวนิคเป็นช่วงสั้น ๆ แต่โดยเฉพาะกับทีมชาติ เอฟเฟนเบิร์กอ้างว่า มัทเธอุสขาดความกล้าหาญในการเล่น โดยอ้างว่าความล้มเหลวของการเป็นกัปตันทีมของเขา มันเกิดขึ้นในการยิงจุดโทษของทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศปี 1990 ขณะที่ มัทเธอุส เสียเวลาเล็กน้อยในการบอกกับบาเยิร์น ให้กำจัดศัตรูเก่าของเขาหลังจากทีมดังของแคว้นบาวาเรีย ดันแพ้ให้กับฮันซ่า ความมันส์ มันยังไม่หมดแค่นนี้ เมื่อตัวของ เอฟเฟนเบิร์ก ยังอุตส่าห์อุทิศชีวิตประจำวันให้กับการเขียนอัตชีวประวัติของเขา ซึ่งจุดที่สื่อถึงศัตรูคนสำคัญของเขาก็คือ หน้าหนังสือที่ว่างโล่งๆ 1 หน้า และมีชื่อหน้ากระดาษกำกับเอาไว้ว่า “สิ่งที่โลธาร์ มัทเธอุส รู้เกี่ยวกับฟุตบอล”

เมาโร อิคาร์ดี้ กับ มักซี โลเปซ (ซามพ์โดเรีย)

สองนักเตะอาร์เจนไตน์คู่นี้ ครั้งหนึ่งเคยสนิทสนมและรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก จนแทบจะเห็นเป็นคู่เกย์กันเลยทีเดียว แต่ทว่ามิตรภาพของพวกเขาเป็นอันต้องพังลงอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อตัวของ อิคาร์ดี้ ดันเลือกที่จะเคลม “วานด้า นารา” เมียสุดเลิฟของ มักซี่ ในช่วงเวลาที่มักซี่กับเมียได้เลิกราต่อกัน แล้วรุ่นน้องของมักซี่ที่เขารักมากอย่าง อิคาร์ดี้ เลือกที่จะเอาเมียของเขาไปเชยชมแบบนี้ มันเลยทำให้สายัสมพันธ์ของพวกเขาสะบั้นในที่สุด ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองหาดูในคลิปที่ มักซี่ เมินจะจับมือกับ “เมาริโต้” ดูก็ได้

จอห์น ฟาชานู  กับ ลอวรี ซานเชซ (วิมเบิลดัน)

จิตวิญญาณของทีมที่แสนจะบ้าพลัง เล่นดุดันของวิมเบิลดัน มันช่วยให้พวกเขาสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในการแข่งขันถ้วยเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีของพวกเขาในปี 1988 แต่เบื้องหลังของเกมนี้ก็คือ ฟาชานู หัวหอกตัวเก่งของทีม และตัวของ ซานเชซ เพื่อนร่วมทีม ดันมาไม่กินเส้นกันซะแบบนั้น ในการฝึกซ้อม ทุกครั้งที่ ฟาชานูทำประตูได้ เขาก็จะโดนเหน็บแนมจากลอวรี ซานเชซ อยู่เป็นประจำ ! 

รุด ฟาน นิสเตลรอย กับ แพทริค ไคลเวิร์ต (เนเธอร์แลนด์)

แน่นอนว่า ไคลเวิร์ต อาจสนุกสนานกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองนิวคาสเซิล ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ถิ่นไทน์ไซด์ในปี 2004 และด้วยความที่คนอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย มีความเป็นพ่อบ้านที่อยู่ติดบ้านตลอด และเป็นคนเงียบขรึม มันเลยทำให้ “พี่ม้า” ไม่รู้สึกประทับใจกับทัศนคติของเพื่อนร่วมทีมชาติรายนี้เท่าไหร่ เมื่อทั้งสองได้มาเข้าร่วมงานกันในทีมชาติและตัวของ ไคลเวิร์ต ก็ยิ่งยั่วอารมณ์ “พี่ม้า” หนักกว่าเก่า โดยการแข่งขันในกรุงอัมสเตอร์ดัมนั้น มันทำให้การเป็นเพื่อร่วมทีมของทั้งคู่จบสิ้น และหลังจากการแข่งขันนัดแรกของยูโร 2004 ที่เล่นกับสกอตแลนด์ มันทำให้กองหน้าจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการกระตุ้นด้วยการพูดโจมตีกองหน้าคู่ต่อสู้ของเขาว่า “ผมทำมันเองไม่ได้” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว “ผมไม่สามารถเป็นผู้เล่นชาวดัตช์คนเดียวที่ซัดกับเขาได้แน่นอน” และในเวลานั้น ดิ๊ก อัตโวคาร์ท ก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันไปได้ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเลยจริงๆ เพราะทีมชาติชุดนั้น แทบจะไม่ไหวแล้ว